ประวัติ หลวงพ่อพระมหากฤชวัฒน์ ปัญญาวุโธ ร่วมทำสวนจัดสวนดอกไม้ใหม่ สร้างบรรยากาศใหม่ในพื้นที่ วัดถ้ำลอดเจริญธรรม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
ร่วมทำสวนจัดสวนดอกไม้ใหม่ สร้างบรรยากาศใหม่ในพื้นที่ วัดถ้ำลอดเจริญธรรม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ร่วมทำสวนจัดสวนดอกไม้ใหม่ สร้างบรรยากาศใหม่ในพื้นที่ วัดถ้ำลอดเจริญธรรม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
ร่วมทำสวนจัดสวนดอกไม้ใหม่ สร้างบรรยากาศใหม่ในพื้นที่ วัดถ้ำลอดเจริญธรรม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
ร่วมทำสวนจัดสวนดอกไม้ใหม่ สร้างบรรยากาศใหม่ในพื้นที่ วัดถ้ำลอดเจริญธรรม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
ตอบลบชีวประวัติพระมหากฤชวัฒน์ ปัญญาวุโธ
ชาติภูมิ พระมหากฤชวัฒน์ ปัญญาวุโธ (วิชัย ปัญญาวุโธ) มีนามเดิมว่านายวิชัย บุญเศษ เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน มีบิดา – มารดา ชื่อ นายลี – นางคำภา บุญเศษ อาชีพ ทำไร่ ทำสวน เกิดวันที่ 26 พฤฏภาคม 2498 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม ณ บ้านตำบลห้วยราษฎร์ อำเภอห้วยราษฎร์ จังหวัดบุรีรัมย์
การศึกษา ในวัยเด็กท่านได้รับการศึกษาเล่าเรียนในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนห้วยราษฎร์พิทยาคาร (มิตรภาพที่ 59) หลังจากจบประถมศึกษาแล้วได้บรรพชาเป็นสามเณรเพมื่อปี 2510 ที่วัดราษฎร์รังสรรค์ อำเภอห้วยราษฎร์ จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่วัดอินทราราม ตลาดพลู เขตธนบุรี เพื่อจะได้ศึกษาเล่าเรียนให้สูงขึ้น
การอุปสมบท พระอาจารย์มหากฤชวัฒน์ ปัญญาวุโธ บวชเณรมาจนมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี 2518 ณ พัทธสีมาวัดอินทราราม โดยมีพระวิเชียรมุณี เจ้าคณะตำบลบางยี่เรือเป็นพระอุปปัชฌาย์ พระครูสาธุกิจบริหาร (พระราชาคณะตำแหน่งพระพิพัฒนธรรมคณีและเจ้าอาวาสวัดราชกฤห์) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสุธีธรรมธาดา (พระราชาคณะตำแหน่งพระสุนทรปริยัติสุธีและเจ้าอาวาสวัดอินทราราม) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พระวิชัย ปัญญาวุโธ” ระหว่างที่บวชอยู่ที่นั่นท่านได้พากเพียรศึกษาพระธรรมวินัยจากครูบาอาจารย์และพระคัมภีร์ต่าง ๆ จนแตกฉาน สามารถสวดมนต์บทต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและไพเราะ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาพระคาถาต่างๆ รวมทั้งฝึกนั่งสมาธิวิปัสสนาเป็นประจำมิได้ขาด จนกระทั่งมีพลังจิตแก่กล้าในทางธรรม ท่านได้ศึกษาธรรมบาลีจนกระทั่งสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
การจารุกธุดงค์วัตร จากการที่ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและพระคาถาอาคมต่าง ๆ พอสมควรแล้ว ท่านจึงได้ออกจาริกธุดงค์ เพื่อแสวงหาความสงบวิเวกไปตามป่าเขา และสถานที่ต่าง ๆ ในชนบทของทุกภาคของประเทศไทย เป็นประจำทุกปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2525 คืนหนึ่งหลังจากได้สวดมนต์และนั่งสมาธิแล้วได้เกิดนิมิตว่า ได้ไปเที่ยวเมืองเก่าแห่งหนึ่งซึ่งมีวัดอยู่มากมาย ณ ที่วัดแห่งหนึ่ง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอย.กลางแจ้งซึ่งมีพุทธลักษณณะที่งดงามยิ่งนัก และมีพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่หน้าพระพุทธรูปองค์นั้น ในนิมิตนั้นบอกว่าเป็นเมืองเก่าสุโขทัย หลังจากนั้นไม่นานท่านได้มีโอกาสไปจาริกที่เมืองเก่า จังหวัดสุโขทัย ท่านได้เดินชมโบราณสถานต่าง ๆ หลายแห่ง จนกระทั่งมาถึงบริเวณวัดโบราณแห่งหนึ่งมีชื่อว่าวัดพระมหาธาตุ ได้พบว่าในบริเวณวัดซึ่งปรึกหักพังไปเป็นส่วนใหญ่แล้วนั้นยังคงเหลือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งมีพุทธลักษณะที่งดงามตรงกับที่นิมิตในคืนนั้น พระพุทธรูปองค์นั้นมีนามว่า “หลวงพ่อสุโขทัย” ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งก็คือท่านได้พบพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่หน้าพระพุทธรูปองค์นั้น ท่านจึงได้เข้าไปกราบสักการะ และอธิษฐานจิตว่าจะมาสวดมนต์และปฏิบัติภาวนา ณ สถานที่ดังกล่าวในโอกาสต่อไป ซึ่งท่านก็ได้เดินทางมาสวดมนต์และนั่งสมาธิที่วัดพระมหาธาตุเมืองเก่าทุกวันศุกร์เรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. 2529 เพื่อให้สะดวกกับการบำเพ็ญเพียรปฏิบัติภาวนายิ่งขึ้น พระอาจารย์มหากฤชวัฒน์ จึงได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ซึ่งอยู่ด้านหลังเมืองเก่าเข้าไปด้านใน ระหว่างที่จำพรรษาอยู่ที่วัดเขาพระบาทใหญ่ท่านได้ไปสวดมนต์และนั่งสมาธิ ณ ที่หน้าพระพุทธรูปวัดพระมหาธาตุเมืองเก่าเป็นประจำ จนกระทั่งได้รับการถ่ายทอดพระคาถาอาคมและวิทยาการต่าง ๆ จากองค์ครูบาอาจารย์และเทวดาที่ดูแลรักษาหลวงพ่อสุโขทัย โดยการถ่ายทอดให้ทางนิมิต
ในปี พ.ศ. 2529 ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 หรือวันลอยกระทง พระอาจารย์ได้ไปปฏิบัติภาวนา ณ ถ้ำแม่ย่า อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ในระหว่างที่นั่งสมาธิอยู่ได้เกิดนิมิตเห็นถ้ำแห่งหนึ่งเป็นพื้นที่สัปปายะ เหมาะต่อการเจริญภาวนาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นป่าร่มรื่นและมีลำธารไหลผ่านด้วย ในนิมิตได้พบพระสงฆ์ชรารูปหนึ่งห่มจีวรสีน้ำหมาก มีนามว่า “หลวงปู่ปัญญา” หรือ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” หรือที่ชาวบ้านแถบนี้เรียกกันว่า “พ่อปู่ถ้ำลอด” ได้ชวนให้มาอยู่ในถ้ำที่เนินมะปราง รุ่งขึ้นท่านได้เดินทางมาสำรวจหาพื้นที่ดังกล่าวที่ถ้ำผาท่าพล ซึ่งอยู่ที่อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ได้พบว่าถ้ำผ่าท่าพลนี้เป็นเขาหินปูน ซึ่งมีถ้ำใหญ่น้อยอยู่หลายแห่งโดยมีถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่พอประมาณ มีลำธารเล็ก ๆ ไหลลอดเขาผ่านไปอีกฟากหนึ่ง ชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า “ถ้ำลอด” และเป็นถ้ำที่มีสภาพแวดล้อมเป็นที่สัปปายะตรงกับนิมิตในคืนนั้น ท่านจึงได้ย้ายจากวัดเขาพระบาทใหญ่มาอาศัยปฏิบัติธรรมที่ถ้ำลอดแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบันนี้
ชีวประวัติพระมหากฤชวัฒน์ ปัญญาวุโธ
ตอบลบผลจากการปฏิบัติธรรม ด้วยการสวดมนต์ภาวนาและจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ได้ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ทางจิตขึ้นในตัวพระมหากฤชวัฒน์ กล่าวคือ เมื่อมีญาติโยมไปทำบุญกับท่านแล้วก็ขอให้ท่านทำนายโชคชะตาราศีให้อยู่เสมอ ท่านก็บอกว่าท่านไม่ใช่หมอดู แต่เมื่อญาติโยมประสงค์เช่นนั้นก็จะดูให้ เมื่อญาติโยมบอกชื่อและวันเดือนปีเกิดให้แล้ว ท่านก็จะรู้แจ้งทันทีว่าญาติโยมคนนั้นมีอดีต ปัจจุบันและอนาคตเป็นอย่างไร มีเคราะห์หรือวิบากกรรมอะไรอยู่ จะแก้เคล็ดอย่างไร ท่านจะบอกไปให้ตามที่จิตของท่านเห็น ญาติโยมจึงมักพูดกันเสมอด้วยความสงสัยว่า ท่านรู้ได้อย่างไร ในเมื่อท่านไม่ได้ผูกดวง หรือคำนวณเหมือนอย่างหมอดูทั้งหลาย และแม่นเหมือนตาเห็น เพราะสิ่งที่ท่านทักหรือบอกไปนั้นตรงกับพฤติกรรมของแต่ละคนจริง ๆ และที่อัศจรรย์ยิ่งก็คือญาติโยมคนใดที่ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านได้ชี้แนะทางแก้ทุกอย่างแล้ว ผู้นั้นก็จะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง เหมือนกับท่านมีวาจาสิทธิ์ กล่าวคือเมื่อพูดสิ่งใดออกมาก็เป็นไปตามอย่างที่ท่านได้พูดทุกประการ
เมตตาบารมี ผลจากความวิริยะ อุตสาหะในการสวดมนต์ภาวนาเป็นกิจวัตรมิได้ขาด รวมทั้งการปฏิบัติภาวนาอย่างเคร่งครัดภายในถ้ำ หรือในบางพรรษาก็จะปฏิบัติภาวนาอยู่บนกุฏิตลอดฤดูเข้าพรรษา โดยจะลงมาฉันอาหารสัปดาห์ละหนเท่านั้น จึงทำให้พลังจิตของท่านกล้าแข็ง ทำให้ท่านมีบารมีสูงยิ่งและเทพเทวดาร่วมอนุโมทนาผลบุญที่ท่านได้บำเพ็ญธรรม จะคิดทำการสิ่งใดก็สำเร็จตามที่ตั้งใจท่านได้แผ่เมตตาจิตช่วยเหลือญาติโยมที่มาหา ทำให้เขาทั้งหลายมีชีวิตดีขึ้น ญาติโยมและลูกศิษย์หลายคน ก่อนที่จะได้พบพระอาจารย์มหากฤชวัฒน์ ต่างก็ประสบความทุกข์ในชีวิตครอบครัว หน้าที่การงานและธุรกิจ เมื่อมีผู้แนะนำหรือทราบข่าวก็ดั้นด้นจากจังหวัดต่าง ๆ ทั้งใกล้และไกลทุกภาคของประเทศ เมื่อได้พบกับพระอาจารย์มหากฤชวัฒน์แล้ว ท่านได้แผ่เมตตาจิตเสริมดวงชะตา และบอกวิธีแก้ทุกข์ทำให้เขาทั้งหลายมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยไม่ได้เลือกว่ายากดีมีจนแต่อย่างใด ท่านมีแต่ให้มาตลอด ผู้ที่ทุกข์ร้อนมา เมื่อมาถึงสำนักสงฆ์ถ้ำลอดแล้ว จะพบแต่ความสงบและสบายใจกลับไปแล้วก็จะประสบความอัศจรรย์ใจต่อปรากฏการณ์ต่างๆ หรือสิ่งที่ท่านได้บอกชี้ทางให้ อาทิ เช่น หลายคนประสบความสำเร็จในธุรกิจการงานปรือหายจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ก็เป็นผลมาจากพลังจิต เมตตาบารมีและทานบารมีที่พระอาจารย์กฤชวัฒน์ท่านปฏิบัติมาตลอดนั่นเอง
สำนักงาน ที่ปรึกษาระบบคอมพิวเตอร์ ( itwtl ) แจ้งเตือน ท่านผู้ประการค้าขายกรุณา อย่านำสื่อ รูปท่านหลวงพ่อในทางที่ ผิดเพี้ยนไปจากกิจกรรมของรูปท่าน จะทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ของท่าน ได้โปรดระมัดระวังด้วยน่ะครับ ด้วยความหวังดีน่ะครับ จากฝ่าย สำนักงาน ที่ปรึกษาระบบคอมพิวเตอร์ ( itwtl )
ตอบลบ