ลืงป่า ฝูงสุดท้าย อ้ายเงี้ยะ ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กำลังขาดอ่หาร รอนักท่องเที่ยว มาให้อาหารจำนวนนับร้อยชีวิต ณ.วัดถ้ำลอด. วันนี้

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่ 1,775 ไร่ ลักษณะเป็นเขาหินปูนอยู่ในมหายุคพาลีโอซีน (Palaeocene) และอยู่ในยุคย่อยคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferus) มีอายุราว 360-276 ล้านปีมาแล้ว เป็นภูเขาหินปูนลูกใหญ่ มีหน้าผาสูงชัน มีลักษณะคล้ายรูปเกือกม้า โดยหินปูนบริเวณนี้ส่วนมากเกิดจากการทับถมของเปลือกหอย พลับพลึงทะเล หรือปะการัง มีการตกตะกอนทางเคมีอยู่น้อยมาก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวถ้ำที่สำคัญของ จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกด้านหนึ่งของเทือกเขาหินปูน ตรงข้ามกับที่ตั้งสำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล เป็นที่ตั้งของวัดและสำนักสงฆ์ และยังเป็นที่อยู่ของลิงวอก ลิงป่าจำนวนมาก โดยลิงป่ามีด้วยกัน 10 ฝูง ฝูงหนึ่งมีจำนวนกว่า 10-20 ตัว ทุกปีในช่วงฤดูแล้งมักจะลงมาหาน้ำและอาหารที่บริเวณวัดถ้ำลอด โดยนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวก็จะเดินทางมาเลี้ยงอาหารลิง  ด้านพระครูสุวัฒน์ คูหาภิยุต รองเจ้าคณะตำบลเนินมะปราง และเจ้าอาวาสวัดถ้ำทองเจริญธรรม หรือวัดถ้ำลอด กล่าวว่า เมื่อช่วง 2-3 ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเลี้ยงอาหารลิงลดลง คาดว่าอาจด้วยปัญหาเศรษฐกิจทำให้ประชาชนต้องจำกัดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ลิงที่มีอยู่จำนวนมากอดอยากหิวโหยจนบางครั้งทะเลาะแย่งชิงพื้นที่หาอาหาร โดยฝูงที่อ่อนแอก็จะหลบอยู่ตามชะง่อนผา หากนักท่องเที่ยวเรียกก็จะลงมารับอาหาร และรีบกลับไปอยู่ด้านบน ซึ่งช่วงนี้ลิงยังลงมาน้อยอาจเป็นเพราะอากาศหนาว หรือไม่ด้านบนเขายังคงมีอาหารอยู่บ้าง ขณะที่นายสุรศักดิ์ ทองคล้อ อายุ 44 ปี พ่อค้าในวัดถ้ำลอด กล่าวว่า ฝูงลิงที่วัดถ้ำลอดมีหลายฝูง บางครั้งมักแย่งชิงอาหารกัน เนื่องจากอาหารน้อย อีกทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่จะมาเลี้ยงอาหารลิงลดลงด้วย แต่ทุกปีช่วงฤดูแล้งก็จะมีลิงลงมาขออาหารจากนักท่องเที่ยว ซึ่งลิงเหล่านี้คุ้นเคยกับการได้รับอาหารจากนักท่องเที่ยวจึงเชื่อง ไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ยกเว้นนักท่องเที่ยวทำให้ตกใจ หรือมีลิงฝูงอื่นจะเข้ามาแย่งอาหารก็จะมีการร้องขู่บ้าง แต่ไม่ทำร้ายนักท่องเที่ยว ทำให้มีเด็กๆ และวัยรุ่นเข้ามาให้อาหารลิง